ความเชื่อบางประการของชีอะฮฺ
อับดุลลอฮฺ บิน มุหัมมัด อัล สะละฟีย์ เขียน  
  จำนวนการเข้าชม : 144590  
ความเชื่อบางประการของชีอะฮฺ
     ความเชื่อบางประการของชีอะฮฺ
     คำนิยม
     คำนำผู้แปล
     คำนำผู้เขียน
     รอฟิเฎาะฮฺ กำเนิดขึ้นเมื่อใด ?
     ทำไมชีอะฮฺจึงได้ชื่อว่า “รอฟิเฎาะฮฺ” ?
     รอฟิเฎาะฮฺ แตกออกเป็นกี่พวก ?
     รอฟิเฎาะฮฺ มีความเชื่ออย่างไรเกี่ยวกับ “อัลบะดาอฺ”?
     รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่ออย่างไรเกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮฺ ?
     รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่ออย่างไรเกี่ยวกับ อัลกุรอานที่มีอยู่ ซึ่งอัลลอฮฺได้ทรงสัญญาว่าจะพิà
     รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่อย่างไร ต่อบรรดาเศาะหาบะฮฺท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม ?
     รอฟิเฎาะฮฺ และยิว มีส่วนคล้ายกันเช่นไร ?
     รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่อเกี่ยวกับบรรดาอิมาม อย่างไร ?
     รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่อเกี่ยวกับ อัล ร็อจอะฮฺ (การฟื้นอีกครั้ง) อย่างไร?
     อะไรคือความเชื่อ อัตตะกียะห์ (การเสแสร้ง) ของพวกรอฟิเฎาะฮฺ ?
     อะไรคือความเชื่อ อัต ตีนะห์ (ดินศักดิ์สิทธิ์) ของพวกรอฟิเฎาะฮฺ ?
     รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่ออย่างไรต่อชาวสุนนีย์ (อะฮฺลิสสุนนะห์ วัลญะมาอะห์) ?
     อะไรคือ มุตอะห์ และมีความพิเศษเช่นไรในความเชื่อของรอฟิเฎาะฮฺ ?
     อะไรคือความเชื่อของรอฟิเฎาะฮฺเกี่ยวกับเมือง นัจฟ และ กัรบาลาอ์ และมีความพิเศษในการเยี่ยà¸
     อะไรคือแนวความขัดแย้งระหว่างชีอะฮฺ รอฟิเฎาะฮฺ และอะฮฺลิสสุนนะห์ ?
     อะไรคือความเชื่อของรอฟิเฎาะฮฺเกี่ยวกับวันอาชูรออ์ (วันที่ 10 มุหัรร็อม) และมันสำคัญเช่นไร ?
     อะไรคือความเชื่อของรอฟิเฎาะฮฺเกี่ยวกับบัยอะห์(การให้คำปฏิญาณต่อคอลีฟะห์) ?
     ความพยายามที่จะรวมความคิดของ อะฮฺลิสสุนนะห์และความคิดของรอฟิเฎาะฮฺ ให้เข้ากัน ทำได้หรืà
     อุลามาอ์รุ่นก่อนและรุ่นหลังมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับรอฟิเฎาะฮฺ ?
     สูเราะฮฺ อัล วิลายะห์ ตามความเชื่อของ รอฟิเฎาะฮฺ
     แผ่นกระดานของฟาติมะห์ ตามคำอ้าง
     ดุอาสองเจว็ดแห่งเผ่ากุเรช
     บทส่งท้าย
     หนังสืออ้างอิงที่เราขอเสนอเพื่อใช้โต้พวก รอฟิเฎาะฮฺ
     เว็ปไซต์ที่สำคัญ ที่เราขอเสนอเพื่อใช้โต้พวก ชีอะฮฺรอฟิเฏาะฮฺ ที่นับถืออิมามสิบสอง
 
รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่ออย่างไรต่อชาวสุนนีย์ (อะฮฺลิสสุนนะห์ วัลญะมาอะห์) ?

รอฟิเฎาะฮฺ ถือว่า สมบัติและเลือดของชาวสุนนีย์ เป็นที่อนุมัติให้ยึดและหลั่งได้ อัล ศอดูก ได้บันทึกในหนังสือ อัลอิลัล   รายงานจาก ดาวูด บิน ฟิรก็อด  ว่า : ฉันได้ถามอบู อับดิลลาฮฺ ถึงพวกสุนนีย์ว่า ท่านมีความเห็นอย่างไร ? ท่านตอบว่า : เลือดนั้นหลั่งได้ แต่ฉันกลัวท่านจะถูกทำกลับเช่นเดียวกัน ดังนั้นให้ท่านใช้วิธีกลบด้วยกำแพง หรือจมพวกเขาในทะเล เพื่อมิให้ท่านถูกจับได้. ฉันถามต่อว่า : แล้วสมบัติของพวกเขา ? ท่านตอบว่า : เท่าใดที่ท่านเอาได้ก็จงเอามันมา [1]

รอฟิเฏาะฮฺมองว่าทารกที่เกิดมาจากพวกเขาล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่สำหรับผู้อื่นนั้นมิใช่ ฮาชิม อัลบะห์รอนีย์ ได้บันทึกในหนังสือของเขา อัล บูรฮาน รายงานจาก มัยษัม บิน ยะห์ยา จากญะฟัร บิน มุหัมมัด ว่า “ไม่มีผู้ใดที่เกิดมานอกเสียจาก         อิบลิสจะอยู่ด้วยในขณะนั้น หากเขารู้ว่าทารกที่เกิดมานั้นเป็นชีอะฮฺ เขาก็จะสกัดกันทารกนั้นจากมารร้ายชัยตอน ถ้าหากทารกนั้นไม่ใช่ชีอะฮฺ อิบลิสก็นำนิ้วชี้ของเขาไปอัดในทวารหนักของทารกที่เป็นเพศชาย เนื่องจากด้านหน้าเป็นอวัยวะเพศไม่สามารถจะอัดนิ้วได้ เหตุผลเพื่อจะทำให้ทารกนั้นเป็นคนไม่ดี และหากเป็นเพศหญิงก็จะอัดนิ้วชี้ของเขาในอวัยะเพศเพื่อให้ทารกนั้นเป็นคนเลว ด้วยเหตุนี้เองทารกจึงร้องให้อย่างรุนแรงในขณะที่เกิดมาจากท้องแม่[2]

จนกระทั่งชีอะฮฺรอฟิเฏาะฮฺถือว่ามนุษย์ทุกคนที่เกิดมานั้นเป็นลูกซินา(เกิดจากการผิดประเวณี)!! อัลกุลัยนีย์ ได้บันทึกในหนังสือของเขา อัรเราเฏาะฮฺ มิน อัลกาฟีย์ รายงานจาก อบูหัมซะห์ จาก อบู ญะฟัร กล่าวว่า : “ฉันได้บอกแก่ อบู ญะฟัร ว่า แท้จริง สหายของพวกเราบางคนได้กล่าวและตำหนิแก่ผู้ที่ขัดแย้งกับพวกเขา” อบู ญะฟัร ก็ได้ตอบฉันว่า : เพียงพอแล้วในสิ่งที่ดีที่สุดของพวกเขา และพูดต่ออีกว่า : ฉันขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ!! โอ้ อบู หัมซะห์ แท้จริงแล้วมนุษย์ทั้งหมดเป็นบุตรของหญิงที่ซินา(ผิดประเวณี) นอกเสียจากชีอะฮฺของเราเท่านั้น”[3]

นอกจากนี้ ชีอะฮฺรอฟิเฎาะฮฺยังมองว่า ชาวสุนนีย์นั้นตกศาสนาอย่างต่ำช้ากว่าพวกยิวและคริสต์ เพราะยิวและคริสต์นั้นเป็นกาฟิรโดยดั้งเดิม ในขณะที่ชาวสุนนีย์ เป็นพวกที่ตกศาสนาหลังจากที่เคยนับถือมาก่อน ประการหลังเป็นที่ยอมรับกันว่า โสมมกว่าประการแรก ดังนั้นพวกชีอะฮฺรอฟิเฏาะฮฺจึงไม่นิ่งเฉยที่จะให้ความช่วยเหลือศัตรู เพื่อล้มล้างชาวสุนนีย์  à¸”ังที่เห็นเป็นประจักษ์พยานในประวัติศาสตร์ [4]

ในหนังสือ “วะสาอิล อัชชีอะฮฺ”   จาก อัล ฟุฎัยล์ บิน ยะสาร กล่าวว่า : ฉันได้ถาม อบู ญะฟัร ถึงสตรีชีอะฮฺว่าฉันสามารภสมรสเธอให้กับสุนนีย์ได้ไหม? ท่านตอบว่า : ไม่ได้ เพราะพวกนี้เป็นกาฟิร [5]

ชาวสุนนีย์ เรียกพวกที่เกลียดชังท่านอาลี บิน อบี ตอลิบ ว่าเป็น นะวาศิบ แต่พวกชีอะฮฺกลับเรียกชาวสุนนีย์ว่าเป็น นะวาศิบเสียเอง ด้วยเหตุที่ชาวสุนนีย์ ยอมรับการเป็นอิมามของท่าน       อบู บักร, อุมัร และอุษมาน ก่อนท่านอาลี พร้อมกับการยกย่อง อบูบักร, อุมัร และ อุษมาน เหนือกว่าอาลี ในสมัยของท่านท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม ยังมีชีวิต หลักฐานในเรื่องนี้ก็คือ    à¸­à¸´à¸šà¸™à¸¸ อุมัร ได้รายงานว่า : พวกเราได้ยกย่องบรรดาผู้คนในสมัยของท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม และได้ยกย่องท่านอบู บักร หลังจากนั้นก็เป็นอุมัร และอุษมาน(ตามลำดับ) รายงานโดย อัล บุคอรีย์

อัต ตอบะรอนีย์ ใน อัลกะบีร  มีรายงานเพิ่มว่า : ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม รู้เรื่องดังกล่าว และไม่ได้ห้ามอะไร

ในรายงานของ อิบนุ อะสากิร มีว่า : พวกเราได้ยกย่อง   ท่านอบู บักร, อุมัร, อุษมาน และอาลี

รายงานจาก อิมาม อะห์มัด และคนอื่นๆ ว่า ท่านอาลี บิน อบี ตอลิบ รอฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ได้เคยกล่าวว่า :  à¸œà¸¹à¹‰à¸—ี่ประเสริฐที่สุดในหมู่ประชาชาตินี้หลังจากท่านนบีคืออบู บักร หลังจากนั้นก็เป็นอุมัร และหากฉันต้องการ ฉันก็จะเรียกว่า ฉันคือบุคคลที่สาม(หลังจากอบู บักร และ อุมัร)

 

อัซ ซะฮะบีย์ กล่าวว่า : รายงานนี้เป็นรายงานมุตะวาติร(หมายถึง เป็นสายรายงานที่มากกว่าสิบขึ้นไปและเป็นที่ยอมรับโดยปริยาย) [6]

 

*****

 



[1] ดู อัลมะหาสิน อัลนัฟสานียะห์  หน้า 166

[2] ดู อัล บูรฮาน โดย ฮาชิม อัลบะห์รอนีย์ 2/300

[3] อัรเราเฏาะฮฺ มิน อัลกาฟีย์ โดย อัลกุลัยนีย์ 8/285

[4] เชคคุล อิสลาม อิบนุ ตัยมียะห์ ได้กล่าวว่า พวกรอฟิเฎาะฮฺได้ช่วยพวกตาตาร์ที่รบกับมุสลิม ดู มัจมูอฺ อัลฟะตาวา (25/151) และดูหนังสือ กัยฟะ ดะคอละ อัตตาตาร์ บิลาด อัลมุสลิมีน โดย ดร. สุลัยมาน บิน หะมัด อัลเอาดะห์. จงดูเถิดว่า พวกชีอะฮฺที่อิรักได้ให้ความร่วมมือกับผู้ที่เข้ามาครอบครองและยึดอำนาจประเทศของตนอย่างไร และหลักฐานที่ยืนยันคือการที่ชาวสุนนีย์ถูกสังหารโดยชีอะฮฺที่ฟัลลูญะห์และอีกหลายๆแห่งที่มีชาวสุนนีย์อาศัยอยู่!!

[5] ดู วะสาอิล อัชชีอะฮฺ  โดย อัล หุร อัล อามีลี (7/431) และ อัตะห์ซีบ   เล่มที่ 7 หน้า 303

[6] ดู อัตตะลีกอต อะลา มัตนี ลัมอะฮฺ อัลอิติกอด โดย ท่านเชค อับดุลลอฮฺ  บิน อัล ญับรีน หน้า 91


 
Retour a la page principale
قسم الأخـبـار :: الدفاع عن السنة